Facebook ปรับการแสดงผลใหม่มีอะไรบ้างไปดูกัน

ครั้งก่อนเราได้เสนอข่าวว่า Facebook เพิ่มฟีเจอร์การจัดหมวดหมู่เพื่อนใหม่ทั้ง  Friend Lists และเพิ่มปุ่ม Subscribe button เพื่อให้การแบ่งข้อมูลระหว่างกันเป็นไปอย่างถูกต้องและใกล้เคียงชีวิตจริงมากขึ้น ล่าสุด Facebook ก็ปรับเปลี่ยนการแสดงผลในหน้า Newsfeed อีกครั้งโดยเราจะเห็นข้อมูลแบบสรุปผลว่ามีจะนวน feed ใหม่ๆกี่จำนวนก่อนทางด้านบน จากนั้นเมื่อกดเข้าไปดูก็จะเปิดออกมาใน Newsfeed ให้เราเห็นซึ่งเดิมจะ Automatic แสดงผลออกมาเลยซึ่งบ้างครั้งเราไม่รู้ว่าอันไหนดูแล้วอันไหนยังไม่เคยเปิดดูจนกว่าจะไล่มาอ่านแล้วจำได้เอง แต่ต่อจากนี้ไปเราจะเห็นเป็นจำนวนแสดงกำกับอยู่ด้วยแล้ว News Feed ใหม่ให้ความรู้สึกแบบอ่านหนังสือพิมพ์ ตอนนี้ News Feed ของ Facebook จะเหมือนกับการอ่านหนังสือพิมพ์โดยอะไรที่เราชื่นชอบจะถูกแสดงผลออกมาให้เห็นก่อนซึ่งมาจากการที่เราชอบเข้าไปอ่าน กด Like, Share, Comment เป็นต้นระบบก็จะดึงข้อมูลจาก Profile หรือ Page นั้นออกมาให้เราเห็นก่อน ในกรณีที่เราไม่ค่อยได้เข้าใช้งาน Facebook เมื่อกลับไปเล่นเราจะเห็นการแสดงผลข้อมูล Photo ก่อนตามมาด้วย Status update แต่ทั้งหมดนี้เราสามารถจะปรับเปลี่ยนได้จากมุมซ้ายที่มีชื่อว่า Blue corner ได้เช่นกันคือถ้าชอบ Feed ไหนก็กดให้เป็น Top Story ซะ

ในกรณีที่เราใช้งาน Facebook บ่อยๆระบบก็จะปรับเปลี่ยนการแสดงผลให้เป็นข้อมูลที่ใหม่ล่าสุดออกมาก่อน ซึ่งต่างกับคนที่นานๆเข้ามาเล่นทีก็จะเจอข้อมูลแบบ Top Story แทน และส่วนที่ปรับใหม่คือการแสดงผลรูปภาพที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิม โดยรูปภาพที่โพสขึ้นมาแบบรูปเดี่ยวจะมีขนาดใหญ่ขึ้นทำให้ดูน่าสนใจกว่าเดิมที่มีขนาดเล็กเท่ากับรูปตัวอย่างการโพสเป็นอัลบัม ส่วนการโพสเป็นอัลบัมก็จะมีการแสดงผลรูปใหญ่บางรูปให้ด้วยเช่นกัน

Ticker: ติดตามเพื่อนแบบ Real-Time ปกติเวลาเราเข้าไปยังหน้าอื่น ไม่ว่าจะเข้าไปที่ Fan page ใดๆ เข้าไปดูรูป ดูวีดีโอ หรือแม้แต่เล่นเกมส์เล่นแอพอะไรบน Facebook เราจะไม่รู้เลยว่าบน News Feedมีข้อมูลอะไรมาใหม่บ้าง แต่จากนี้ไปเราจะทราบแล้วว่ามีใครทำอะไรบน Facebook ด้วยพื้นที่แสดงผล News Feedย่อมๆที่เรียกว่า Ticker พร้อมกับการแสดงผลแบบขยายเมื่อเราเอาเม้าส์ไปวาง (Mouse over) ซึ่งต่อจากนี้ไปมันจะติดตามไปทุกหน้าของ Facebook ไม่ให้เราพลาดการติดต่อกับเพื่อนๆกันเลยทีเดียว

ในกรณีที่เราตั้งค่าให้บริเวณ Chat ไปอยู่ทางด้านขวาแบบเต้มเจอ ส่วนของ Ticker ก็จะย้ายไปอยู่ด้านบนด้วยเช่นกัน และสามารถไปตั้งค่า Newsfeed ที่จะมาแสดงผลใน Ticker ได้จาก sharing control หรือ apps settings. ขอบคุณ www.veedvil.com

Windows 8 Developer Preview Build 8102 M3 Is Now Available For Download

Windows 8 Developer Preview Build 8102 M3 Is Now Available For Download

ไมโครซอฟท์เปิดให้ดาวน์โหลด Windows 8 Developer Preview แล้ว

14 กันยายน 2554: ข่าวดีสำหรับท่านที่รอทดสอบใช้งาน Windows 8 เมื่อไมโครซอฟท์เปิดให้ผู้ที่สนใจดาวน์โหลด Windows 8 เวอร์ชัน Developer Preview ซึ่งมีหมายเลขเวอร์ชัน Version 6.2 (Build 8102.101) ได้แล้ว สำหรับไฮไลท์ของเวอร์ชัน Developer Preview นั้นจะอยู่ที่แอพสไตล์ Metro ( Metro style app) ซึ่งได้รับการออกแบบให้เเหมาะสมสำหรับการใช้งานด้วยระบบสัมผัสบนอุปกรณ์ประเภทแท็บเล็ต (Tablet) ซึ่งได้รับความนิยมในปัจจุบันและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต

ดาวน์โหลด Windows 8 Developer Preview
Windows 8 Developer Preview มีให้ดาวน์โหลดทั้งหมด 3 เวอร์ชันด้วยกัน คือ Windows 8 Developer Preview with developer tools 64-bit (x64), Windows 8 Developer Preview 64-bit (x64) และ Windows 8 Developer Preview 32-bit (x86) ทั้งหมดจะเป็นไฟล์ฟอร์แมตอิมเมจไอเอสโอ (.iso) และมีเฉพาะเวอร์ชันภาษาอังกฤษเท่านั้น ตามรายละเอียดดังนี้

ข้อควรทราบ: ไม่แนะนำให้ทำการติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานจริงเพราะอาจทำให้ข้อมูลสำคัญสูญหายได้

Windows 8 Developer Preview with developer tools English
ชุดดาวน์โหลดนี้เป็นไฟล์อิมเมจไอเอสโอ (.iso) ซึ่งบรรจุตัวติดตั้ง Windows 8 Developer Preview รุ่น 64 บิทและเครื่องมือสำหรับพัฒนาซอฟต์แวร์อื่นๆ ดังนี้

• 64-bit Windows 8 Developer Preview
• Windows SDK for Metro style apps
• Microsoft Visual Studio 11 Express for Windows Developer Preview
• Microsoft Expression Blend 5 Developer Preview
• 28 Metro style apps including the BUILD Conference app

สามารถดาวน์โหลดได้ที่ Download Windows 8 Developer Preview with developer tools 64-bit (x64)

Windows 8 Developer Preview English, 64-bit (x64)
ชุดดาวน์โหลดนี้เป็นไฟล์อิมเมจไอเอสโอ (.iso) สำหรับติดตั้ง Windows 8 Developer Preview รุ่น 64 บิทพร้อมแอพสไตล์ Metro สามารถดาวน์โหลดได้ที่: Download Windows 8 Developer Preview 64-bit (x64)

Windows 8 Developer Preview English, 32-bit (x86)
ชุดดาวน์โหลดนี้เป็นไฟล์อิมเมจไอเอสโอ (.iso) สำหรับติดตั้ง Windows 8 Developer Preview รุ่น 32 บิทพร้อมแอพสไตล์ Metro สามารถดาวน์โหลดได้ที่: Download Windows 8 Developer Preview 32-bit (x86)

ความต้องการระบบของ Windows 8 Developer Preview
Windows 8 Developer Preview นั้นมีความต้องการระบบเหมือนกับ Windows 7 และ Windows Vista รายละเอียดดังนี้

• CPU: ซีพียูความเร็ว 1 GHz 32-bit (x86) หรือ 64-bit (x64)
• Memory: หน่วยความจำอย่างน้อย 1 GB สำหรับ Windows 8 32-bit และ 2 GB สำหรับ Windows 8 64-bit
• Disk space: พื้นที่ฮาร์ดดิสก์อย่างต่ำ 16 GB สำหรับ Windows 8 32-bit และ 20 GB สำหรับ Windows 8 64-bit
• Graphics: รองรับ DirectX 9 และ Windows Display Driver Model (WDDM) 1.0 หรือสูงกว่า
• Other: การใช้งานแบบระบบอินพุทแบบสัมผัส (Touch Input) ต้องใช้จอภาพแบบ Multi-touch

ข้อควรทราบในการติดตั้ง Windows 8 Developer Preview
ก่อนทำการติดตั้ง Windows 8 Developer Preview บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี Windows รุ่นก่อนหน้าติดตั้งอยู่ ให้พิจารณาเงื่อนไขต่อไปนี้เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายโดยไม่ตั้งใจ

• การติดตั้ง Windows 8 Developer Preview with developer tools บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี Windows 7, Windows Vista และ Windows XP ติดตั้งอยู่จะต้องทำการติดตั้งแบบ Clean install เท่านั้น
• การติดตั้ง Windows Developer Preview (32-bit หรือ 64-bit) บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี Windows 7 และ Windows Vista ติดตั้งอยู่ บัญชีผู้ใช้ (Accounts), ไฟล์ และการตั้งค่าต่างๆ (Settings) จะยังคงอยู่ ส่วนข้อมูลอื่นๆ จะหายทั้งหมด
• การติดตั้ง Windows Developer Preview (32-bit หรือ 64-bit) บนเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี Windows XP ติดตั้งอยู่ Windows XP บัญชีผู้ใช้ (Accounts) และไฟล์ จะยังคงอยู่ ส่วนข้อมูลอื่นๆ จะหายทั้งหมด

Windows Developer Preview Version 6.2 (Build 8102.101)

บทความโดย: Thai Windows Administrator Blog

แหล่งข้อมูลอ้างอิง
• Building Windows 8 - MSDN Blogs
• Windows Developer Preview downloads 

Windows 8 Ultimate xTreme x86

                               Windows 8 Ultimate xTreme x86

---

Windows 8 Ultimate xTreme x86 [สุดยอดความสวยงาม อลังการของWin7] New Theme,Tweak windows เบาและเร็วแรงตัดSystem ไม่สำคัญออก!!ไม่มีผลข้างเคียง สเถียรรับรองใช้แล้วเพื่อนอิจฉา Hardware Requirements: -CPU: 1.5 GHz 32/64-bit -VIDEO: with support for DirectX 9 and 128 MB of memory (for the theme Aero) -RAM: 512 MB -HDD: 12 GB (4 GB Space) What is Windows 8 xTreme?? Windows 8 xTreme? its a System based on Windows 7 F!nal: - Windows 8 xTreme? doesn't have any components removed from Original  Windows 7 Image so you wont  lose any compatibly with software, hardware  or miss any stuff at all. - Windows 8 xTreme? its a Clean Windows 7 Image with a compilation of  the best tweaks and a new integrated  look... keeping all new features  like superbar, etc... - Windows 8 xTreme? has been tested in a real machine with a compilation of over 200 softwares... - All default applications are silently installed before StartUp... Tweaks: * UAC Disabled * Take Ownership * Show File Extensions * Automatic Defragmentation with Diskeeper * New Cmd File to Right Click * Enabled Search System Folders in Search * ClearType * Windows Will Tell You Exactly What it is Doing When it is Shutting Down or is Booting * Increase Network Throughput * ... many tweaks for IE8 * ... many more tweaks for W7... Design: * New Windows 7 Themes * New Start Button * New Cursor 3D * New Hd Wallpapers * New Hd System Icons Integrated In System * New User Account Pics * New Windows Scheme Sounds * New Logon Screen * ... and more Extra Toos Integrated In System: * SPTD Extras: * Cursor Fx + Cursor 3D เป็นWindows 7 ที่โมน่ะครับ ให้สวยงาม สะดวก และเบากว่าเดิมในสไตล์ Ultimate ใครยังไม่ลอง Windows 7 ขอให้ลองตัวนี้ครับ แล้วคุณจะลืมมันยาก!! เพราะ ไม่ว่าทำอะไรก็สวยไปหมด!! อวดเพื่อนๆได้เลย เบาๆ ไม่มีผลข้างเคียงครับ เร็วขึ้นกว่าเดิมครับ และ ป้องกันไวรัสพื้นฐานได้ด้วยน่ะ ชุดที่1 Download  part1  1.5 GB     :  http://www.duckload.com/dl/F3pO2 Download  part2  839.3 MB :  http://www.duckload.com/dl/ewpO2 **ไฟล์ทั้ง 2 ชุด ทดแทนกันได้*** ชุดที่2 Download  part1  1.5 GB     :  http://cramit.in/8kmpx5emufzy Download  part2  839.3 MB :  http://cramit.in/h7rmm8h3j6y5 *วิธีโหลด cramit.in คลิกลิงค์---> คลิกที่ FREE ---> ใส่รหัสในภาพที่เห็น คลิก CREATE DOWNLOAD LINK---->CLICK TO DOWNLOA

Windows 8 Tablet สุดยอดกว่า iPad ลูกเล่นเพียบ

ช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ได้นำเสนอ Windows 8 Tablet ออกสู่สายตาชาวโลกครั้งแรก ก็ได้สร้างความฮือฮาได้พอสมควร แต่ก็ยังถือว่าไม่โดนใจสำหรับใครอีกหลายๆคน สำหรับเรื่องราวในวันนี้ทางเว็บ Slashgear.com เค้าได้เครื่อง Tablet ที่ผลิตโดย Samsung และใช้ระบบปฎิบัติการ Windows 8 Tablet นำมาแกะกล่องให้ได้ชมกัน สำหรับจุดโฟกัสในเรื่องนี้คงไม่ได้เน้นไปทางด้านตัว Hardware แต่จะเน้นไปเรื่องของรูปแบบตัว Windows 8 เสียมากกว่า สิ่งแรกที่รู้สึกได้สำหรับคำว่า Windows ก็คือเรื่องการบู๊ตเครื่อง ในตัว Windows 8 นั้นสามารถทำการบู๊ตเครื่องได้ต่ำกว่า 10 วินาที ซึ่งก็นับว่าเป้นตัวเลขที่น่าสนใจไม่น้อย รูปแบบอินเตอร์เฟสนั้น ออกแนวเรียบๆง่ายๆ คล้ายกับ Windows Phone 7 ซึ่งเรียกกันว่า Metro-style Live การสั่งการและการตอบสนองต่างๆใช้นิ้วมือเป็นหลัก ตัวเครื่องรุ่นนี้มี Docking ซึ่งช่วยให้มันสามารถต่อพ่วงอุปกรณ์ภายนอกได้ จนกลายเป็น Desktop PC ขนาดเล็กได้โดยไม่ยากนัก รายละเอียดการทำงานลองชมได้จาก VDO ด้านล่างได้เลยครับ สำหรับสิ่งที่ผมรู้สึกได้จากใน VDO ก็คือการทำงานของ Tablet ตัวนี้ทำงานได้ค่อนข้างรวดเร็ว ไหลลื่นดีมาก การทำงานร่วมกับโปรแกรมและไฟล์ต่างๆ รวมทั้งโปรแกรมอีกนานับโปรแกรมนั้น เชื่อว่าน่าจะทำงานร่วมกับ Windows บนเครื่อง PC ปกติได้อย่างเข้ากันได้ง่ายกว่า Tablet ที่เป็น แอนดรอยด์ หรือ iPad ประสิทธิภาพการทำงานหากดูจากใน VDO แล้วจะพบว่ามันทำงานได้ดีมากทีเดียว อิสระในการทำงานต่างๆค่อนข้างยืดหยุ่นมาก การจัดวาง โปรแกรมต่างๆบนหน้าจอสามารถเลื่อนสลับไปมาได้อย่างง่าย ออกแบบคล้ายๆกับ กล่องที่นำมาวางต่อๆกัน เราสามารถเลื่อนกล่องต่างๆสลับวางในตำแหน่งที่เราพอใจ ทำให้รู้สึกรูปแบบการใช้งานไม่ซับซ้อนเหมือนพวก Windows แบบอื่นๆในอดีต ระบบ Multitasking บน Windows 8 tablet นั้น จัดสรรพื้นที่การทำงานได้ค่อนข้างดีมาก ตั้งแต่เรื่องการแบ่งหน้าจอแชร์พื้นที่การทำงาน การเลื่อนสลับไปมาระหว่างโปรแกรม โดยลักษณะรูปแบบเป็นการทำงานแบบ เลเยอร์ที่วางซ้อนเลื่อนสลับกันไปมาได้สะดวก

โดยรวมๆแล้ว Windows 8 Tablet นั้นเรียกได้ว่ารื้อบ้านเก่าทิ้งเกือบหมดแล้วเริ่มสร้งกันใหม่แทบทั้งหมด รูปแบบการทำงาน การใช้งานต่างๆแทบไม่เหลือความเป็น Windows แบบเดิมๆไว้เลย ซึ่งก็คล้ายๆกับช่วงที่ Windows Mobile เปลี่ยนรูปแบบมาเป็น Windows Phone 7 ประมาณนั้นเลยครับ ต้องยอมรับว่าประสิทธิภาพของ Tablet ตัวนี้นั้นมันดูเหนือกว่า iPad เยอะเลย

ลองรึยัง Youtube ดีไซน์ใหม่!

“CosmicPanda” เป็นชื่อเรียก "Layout" หรือการจัดวางวีดีโอแบบใหม่ของ Yotube เว็บคลิปวีดีโออันดับหนึ่งของโลก โดยการออกแบบนี้ได้ถูกนำมาให้ผู้ใช้ทดสอบ และสอบถามความคิดเห็นเพิ่มเติมว่าเจ้า cosmic panda ตัวนี้โดนใจผู้ทดสอบมากน้อยขนาดไหน

หลังจากทีมเออาร์ไอพีได้ทดสอบแล้ว ก็รู้สึกเปลี่ยนไปจากเดิมพอสมควร

โดยสรุปคุณสมบัติเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ดังนี้

1. การแสดงผลที่ใหญ่ขึ้น

2. โทนสีมืดขึ้น โดยใช้แบ็คกราวด์สีดำ และการจัดวางช่องวีดีโอที่เปลี่ยนไป

3. เจ้าของคลิปสามารถใช้อุปกรณ์ที่ Youtube ได้สร้างไว้เพื่อตกแต่งและปรับ Channel ได้มากขึ้น

หากได้ลอง CosmicPanda แล้วไม่ถูกใจ สามารถปรับให้เข้าสู่หมวดเดิมได้ที่

http://www.youtube.com/cosmicpanda และเลือก Older Version

เห็นแบบนี้แล้วอยากลอง ก็เข้ามาทดสอบกันได้ที่Youtube เลย

Windows Phone 7 Mango พร้อมแล้ว!!!

Peter Wissinger ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจโมบายของ Microsoft ได้ประกาศวันนี้ว่า "ตอนนี้ มัน (Windows Phone 7 Mango) ถูกส่งให้กับบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่เป็นพันธมิตร เพื่ออัพเดตผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้าของเรา Microsoft ได้ส่งมอบ Mango ก่อนกำหนดการที่ตังไว้ ตอนนี้รู้สึกดีมากๆ" อย่างไรก็ตาม คงต้องรอดูว่า เราจะได้เห็นสมาร์ทโฟนที่รัน WP7 Mango รุ่นแรกวางตลาดเมื่อใด ซึ่งปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใช้ WP7 ก็ได้แก่ Nokia, HTC, LG, Samsung, Dell, ZTE Corporation, Acer และ Fujitsu

คาดว่า ตอนนี้ Nokia น่าจะอยู่ในระหว่างการอัพเกรด Mango ให้กับ  Sea Ray สมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ Windows Phone 7  ตามด้วย Toshiba-Fujitsu IS12T ซึ่งมีกำหนดการเปิดตัวในเดือนกันยายน งานนี้จึงดูเหมือน Microsoft จะต้องการให้สมาร์ทโฟนที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ออกมาก่อน iPhone 5 อย่างไรก็ตาม หากคุณผู้อ่านเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน Windows Phone 7 คุณสามารถอัพเดท Mango ได้เอง โดยดูขั้นตอนจากคลิปวิดีโอข้างล่างนี้

เว็บไซต์ในข่าว: Microsoft

กระแสความสนใจใน Windows 8

[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ไมโครซอฟท์ (Microsoft) รายงานว่า หลังจากเปิดให้ดาวน์โหลด Windows Preview เมื่อวานนี้ ยอดการดาวน์โหลดทะลุ 500,000 ครั้งไปเรียบร้อยแล้ว นันหมายความว่า กระแสความสนใจใน Windows 8 ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวนี้จะพูดถึงคุณสมบัติบางอย่างที่ยังคงติดตามมาหลอกหลอนจนถึงโอเอสรุ่นใหม่ด้วยนั่นคือ BSoD (Blue Screen of Death) หรือ "จอฟ้ามรณะ"

Blue Screen of Death (BSoD) หรือ "จอฟ้ามรณะ" บน Windows เป็นสิ่งที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะได้เคยพบเห็นกันมาแล้ว โดยหน้าจอจะแสดงสีฟ้า พร้อมกับข้อความมากมายที่พยายามอธิบายเกียวกับสาเหตุที่ทำให้เกิดการล่มการทำงานของระบบปฏิบัติการ เมื่อจอนี้โผล่ขึ้นมา มันหมายถึง การที่ผู้ใช้ต้องรีสตาร์ทระบบ และอาจหมายรวมถึงการที่ต้องลุ้นว่า มันจะเริ่มต้นได้อย่างปกติด้วย หรือไม่? สถิติในเบื้องต้น 99% ของผู้ใช้ได้เคยพบเห็นหน้าจอนี้มาแล้ว และถึงแม้จะไม่เข้าใจในสิ่งที่หน้าจอพยายามจะอธิบาย แต่ก็รู้ดีว่า ต้องรีสตาร์ทเครื่อง - -"

BSoD สามารถพบเห็นได้ใน Windows ทุกเวอร์ชัน แม้กระทั่ง Windows 8 ที่เพิ่งเปิดให้ดาวน์โหลด Windows Preview ไปเมื่อวานนี้ BSoD โผล่ขึ้นมาให้ได้เห็นกันอีกแล้ว แต่ไหนๆ Windows 8 ก็ได้ปฏิวัติการออกแบบ UI ทีแตกต่างจากเดิมที่เริ่มเห็นกันมาตั้งแต่ Windows 95 โดยสิ้นเชิง ว่าแล้ว BSoD ของ Windows 8 จึงไม่เหมือนเดิมด้วย โดยในรูป ข้อความและรหัสโค้ดต่างๆ ที่ดูสับสนเต็มหน้าจอได้หายไปแล้ว แต่มันจะถูกแทนที่ด้วยรูปหน้าเศร้า :( ตามด้วยข้อความที่บอกว่า พีซีของคุณไม่สามารถจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้... และมันจะรีสตาร์ทเครื่องภายใน...วินาที ว่าแต่ ถึงแม้จะเปลี่ยนให้หน้าจอ BSoD ดูเป็นมิตรขึ้น แต่ Windows ก็ยังคงไม่สามารถอธิบายปัญหาที่เกิดขึ้นด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายได้อยู่ดี แล้วคุณผู้อ่านของเว็บไซต์ arip ล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรกํบหน้า BSoD แบบใหม่?

เว็บไซต์ในข่าว: Microsoft

แก้ปัญหา ไม่ได้รับ mail สำหรับ hotmail

login hotmail ให้เรียบร้อย แล้วดูตรงมุมขวาบน คลิกตามที่ลูกศรชี้ได้เลยครับ

แล้วกรอก admin@unigang.com   ลงในช่องกรอบแดงๆ แล้วกดปุ่มด้านขวา

 

ถึงยังไงก็อย่าลืมเชค ใน jung  mail ด้วยนะครับ

สุดเจ๋ง!! ไมโครซอฟท์โชว์ วินโดว์ 8 ใช้เวลาเปิดเครื่องไม่ถึง 10 วินาที

รายงานข่าวแจ้งว่า ทางไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้สาธิตการทำงานของวินโดว์ 8 ระบบปฏิบัติการรุ่นใหม่ ที่แสดงให้เห็นถึงความเร็วในการบู๊ตเครื่องขึ้นทำงานได้อย่างรวดเร็ว  ทั้งนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์ในการใช้งานกับผู้ใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในการนี้ ไมโครซอฟท์ เปิดเผยว่า ระบบปฏิบัติการวินโดว์ 8 จะใช้การทำงานร่วมกันของรูทีนบูท, Shutdown และไฮเบอร์เนต กับเซสชั่นของแกนหลักในการทำงานของวินโดว์ 8 ทั้งนี้ ยังมีข้อได้เปรียบที่เกิดจากการทำงานของโพรเซสเซอร์แบบมัลติคอร์ ที่พบได้ในพีซี  ผลลัพธ์ก็คือ เวลาเปิดเครื่องสั้นลงจนเหลือเพียงไม่กี่วินาที ทั้งนี้ฝายวิจัยของไมโครซอฟท์ ยังระบุว่า ผู้ใช้เดสก์ทอป 57% และโน้ตบุ๊ค 45% พอใจที่จะชัตดาวน์ และรีบู๊ตเครื่องมากกว่าใช้โหมดพักเครื่อง โดยให้เหตุผลว่า ผู้ใช้ต้องการประหยัดแบตเตอรี่ และต้องการให้เครื่องเริ่มต้นทำงานใหม่ เพื่อทำให้ระบบมีความพร้อมทำงานมากกว่า จึงเป็นเหตุผลให้ไมโครซอฟท์ เพิ่มขีดความสามารถในการเกิดเครื่องและชัตดาวน์ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้ เวลาในการบู๊ตเครื่องที่สั้นลงนี้ จะใช้ได้ดีทั้งกับสตอเรจที่เป็น HDD และ SSD

ทำไมแอปเปิลต้องทดสอบ iPhone 5 ในผับบาร์?

ห้องทดสอบสัญญาณโทรศัพท์มือถือในสำนักงานของแอปเปิล ซึ่งแม้แอปเปิลไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเกี่ยวกับห้องนี้ แต่ก็สะท้อนว่าแอปเปิลให้ความสำคัญกับการทดสอบผลิตภัณฑ์มากเพียงไร กลายเป็นเรื่องชวนหัวเมื่อสื่อนอกรายงานว่า แอปเปิลต้องรับสภาพประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเพราะพนักงานแอปเปิลเกิดทำเครื่องต้นแบบ iPhone รุ่นใหม่ซึ่งเรียกกันว่า iPhone 5 สูญหายในบาร์ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทั้งที่เมื่อ 1 ปีก่อนหน้านี้ ต้นแบบ iPhone 4 ก็เคยถูกพนักงานแอปเปิลที่ดื่มเหล้าเมาแล้วทำหล่นหายในบาร์มาก่อน               ทั้งหมดนี้เกิดเป็นคำถามว่า ทำไมแอปเปิลจึงต้องให้พนักงานนำอุปกรณ์ต้นแบบที่มีความสำคัญมากไปทดสอบในสถานที่อโคจรและมีความเสี่ยงสูงอย่างผับบาร์? หลายคนประหลาดใจที่เหตุการณ์เช่นนี้มีโอกาสเกิดขึ้นกับแอปเปิลซ้ำอีก จนดูเหมือนเป็นเรื่องตลกที่ฝรั่งให้คำจำกัดความว่า crazy หรือว่า "บ้าไปแล้ว"               เรื่องนี้มีเหตุผลที่อธิบายได้ แม้จะยังไม่มีข้อพิสูจน์ว่ารายงานของเว็บไซต์ cnet.com เป็นความจริงหรือไม่                รายงานของ cnet.com อ้างว่ามีพนักงานแอปเปิลรายหนึ่งที่รับหน้าที่ทดสอบ iPhone 5 รุ่นต้นแบบ แต่ไปหล่นหายในบาร์ชื่อ Cava 22 ในซานฟรานซิสโก แต่แอปเปิลปิดบังเรื่องนี้และไม่เข้าแจ้งความ ซึ่งตรงกับข้อมูลของตำรวจที่ระบุว่าไม่มีเหตุการณ์แจ้งความต้นแบบ iPhone 5 สูญหาย เบื้องต้น cnet.com ระบุว่าแอปเปิลได้ขอความร่วมมือจากตำรวจให้ช่วยค้นหาเครื่องต้นแบบที่หายไปอย่างลับๆ จนกระทั่งสามารถตามรอยต้นแบบ iPhone 5 ถึงบ้านหลังหนึ่งในซานฟรานซิสโกของชายวัย 22 ปีที่ยอมรับว่าได้ไปที่ร้าน Cava 22 ในคืนวันเกิดเหตุ แต่ชายผู้นี้ปฏิเสธทุกข้อหาและการค้นบ้านหลังนั้นก็ไม่พบต้นแบบ iPhone 5 ใดๆ               ในขณะที่ยังไม่มีการยืนยันความจริงเรื่องเครื่องต้นแบบหาย แต่สิ่งหนึ่งที่สามารถอธิบายได้ว่า เหตุที่การสูญหายของต้นแบบ iPhone 5 มีโอกาสเกิดซ้ำรอยอีกครั้งในบาร์ นั่นคือวิสัยการทดสอบผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล               แม้จะรู้ว่าเสี่ยง แต่แอปเปิลจะไม่สามารถดำเนินการทดสอบโทรศัพท์ใหม่ที่น่าเชื่อถือโดยไม่ทดลองนำเครื่องต้นแบบสัก 2-3 เครื่องออกนอกบริษัท และถึงจะมีการรักษาความปลอดภัยทั้งการใส่รหัสล็อกเครื่องหรืออะไรก็ตาม แต่อุบัติเหตุทุกอย่างล้วนมีสิทธิเกิดขึ้นได้

สถานที่เดียวอย่างผับบาร์ พนักงานแอปเปิลจะสามารถทดสอบคุณสมบัติได้มากมายแบบที่ทำไม่ได้ในห้องปฏิบัติการงบประมาณแสนแพง คุณสมบัติอย่างคุณภาพการเล่นเพลงและภาพยนตร์ คุณภาพกล้องถ่ายรูปในที่มืด รวมถึงคุณสมบัติอื่นๆของ iOS นั้นสามารถทำในห้องแล็ปส์ได้ แต่คุณภาพการโทร ความแรงของสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งด้านเสียงและข้อมูล รวมถึงการเชื่อมต่อกับระบบพิกัดบนพื้นโลก GPS ทั้งหมดนี้ต้องใช้การทดสอบจากนอกบริษัททั้งสิ้น               ที่ผ่านมา การทดสอบเครื่องต้นแบบลักษณะนี้มีนับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะภายในห้องปฏิบัติการซึ่งทั้งแอปเปิลและพันธมิตรลงทุนสร้างขึ้นด้วยเงินมหาศาล เรื่องนี้ปรากฏเป็นข่าวมาตลอดว่าโอเปอเรเตอร์ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือในสหรัฐฯต่างกำลังทดสอบความสามารถด้านการเชื่อมต่อระบบและการรับสัญญาณใน iPhone รุ่นใหม่แล้วในแล็ปส์ของตัวเอง จึงไม่น่าแปลกถ้าเวลานี้จะถึงกำหนดที่แอปเปิลและพันธมิตรต้องนำโทรศัพท์ออกมาทดสอบในโลกแห่งความจริง               ข้อมูลที่เก็บได้จากการทดสอบใช้งานในสถานที่จริงยังจำเป็นมากสำหรับการทดสอบความสามารถของการเชื่อมต่อข้อมูลไร้สายอย่างบลูทูธ รวมถึงความเสถียรในการรับส่งสัญญาณ GPS ซึ่งจะทำให้นานาแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับ 2 เทคโนโลยีนี้สามารถทำงานได้ไร้ปัญหา โดยวิศวกรและนักออกแบบจะสามารถวิเคราะห์และประมวลปัญหาจากข้อมูลที่ได้จากสถานที่จริง เพื่อร่วมกันแก้ก่อนที่ผลิตภัณฑ์ตัวจริงจะออกสู่ตลาด               แน่นอนว่าไม่ใช่เฉพาะแอปเปิล แต่แบรนด์อื่นก็มีการทดสอบผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้เช่นกัน แต่เรื่องแปลกคือยังไม่มีค่ายใดที่ปรากฏข่าวเครื่องต้นแบบสูญหายเช่นแอปเปิลในผับบาร์ซ้ำ 2 ครั้งเช่นแอปเปิล               สำหรับความคืบหน้าของคดีต้นแบบ iPhone 4 สูญหายเมื่อปีที่แล้ว ล่าสุด 2 ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ที่จำหน่ายต้นแบบ iPhone 4 ให้กับเว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยี Gizmodo กำลังอยู่ระหว่างอุทธรณ์คดีในขณะนี้               ..ถ้าต้นแบบ iPhone 5 หายจริงๆ ครั้งหน้าต้องระวังหน่อยนะจ้ะ..

เผยโฉมรถที่ใช้เก็บบันทึกภาพ Google Street View ในประเทศไทย

เรามุ่งมั่นที่จะแสดงภาพของโลกนี้ให้แจ่มชัดและมีชีวิตชีวามากที่สุดเท่าที่จะทำได้

บน Google แผนที่ และยังเชื่อว่า การให้บริการแผนที่ที่มีรายละเอียดชัดเจนจะช่วยให้

ผู้คนเข้าใจโลกที่เราทุกคนอาศัยอยู่ได้ดีขึ้น ด้วยวิสัยทัศน์ดังกล่าวนี้เอง เราจึงได้เปิดตัว

Google แผนที่กับ "สตรีทวิว" ขึ้นเมื่อเดินพฤษภาคม ปี 2007 ในสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันนี้

ให้บริการแล้วในกว่า 30 ประเทศทั่วโลก

ลองนึกถึงการบนถนนใจกลางกรุงเทพได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนในโลกดูสิ

ที่งานแถลงข่าววันนี้ Google ประเทศไทย และพันธมิตรคือ การท่องเที่ยวแห่ง

ประเทศไทย (ททท.) ประกาศว่า เรากำลังจะเริ่มขับรถยนต์สตรีทวิวที่ออกแบบมาเป็น

พิเศษไปทั่วประเทศไทย เพื่อสนับสนุนแคมเปญใหม่ในการรณรงค์การท่องเที่ยวไทยด้วย

Google แผนที่กับสตรีทวิว

ทันทีที่กระบวนการเก็บบันทึกภาพเสร็จสมบูรณ์ ภาพในมุมมองต่างๆ บนท้องถนนของ

เมืองไทยจะปรากฏบน Google แผนที่ ซึ่งผู้ใช้งานทั่วโลกจะสามารถเข้าถึงมุมมองต่างๆ นี้

ในระดับถนน และสามารถสำรวจเส้นทางบนท้องถนนที่หลากหลายทั่วทั้งประเทศ เหมือ

นกับว่าคุณกำลังเดินอยู่บนถนนจริงๆ ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์พกพาของคุณ!

ในประเทศที่ Google แผนทีกับสตรีทวิวพร้อมใช้งานแล้วนั้น ผู้ใช้จะสามารถดูภาพถ่ายใ

นระดับถนนได้ด้วยการซูมเข้าไปที่ระดับต่ำสุดบนแผนที่ของ Google หรือลากไอคอน

ตุ๊กตา "Pegman" สีส้ม ทางด้านซ้ายของแผนที่ไปยังถนนที่เป็นเส้นไฮไลต์สีฟ้า

นอกจากนี้ Google ประเทศไทย และ ททท. ยังร่วมประกาศแผนความร่วมมือพิเศษในการ

เก็บภาพของสถานที่ประวัติศาสตร์และแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังต่างๆ ของประเทศไทย เชิญ

ลองชมตัวอย่างเด่นๆ จากประเทศอื่น เช่น สโตนเฮนจ์ในอังกฤษ โคลอสเซียมในกรุงโรม

เลโก้แลนด์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย

Google รู้สึกตื่นเต้นกับรูปภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจที่เรากำลังรอที่จะค้นพบจากประเทศไทย

และ Google พร้อมกับพันธมิตรของเรา ต้องการที่จะเปิดโอกาสให้ชาวไทยได้มีส่วนร่วมใน

การเสนอและเลือกสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อรวบรวมภาพพาโนรามาของ Google

แผนที่กับสตรีทวิว และมอบให้เป็นของขวัญแก่ผู้คนทั่วโลก

ทีม Google ประเทศไทย จะอัปเดตความคืบหน้าของการขับเคลื่อนรถยนต์สตรีทวิวให้กับ

ผู้ใช้ชาวไทยทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่

google.co.th/streetview รวมถึงแนวทางการใช้ประโยชน์เพื่อความบันเทิงและธุรกิจ

เขียนโดย พรทิพย์ กองชุน, หัวหน้าฝ่ายการตลาด Google ประเทศไทย

ที่มา : Google ประเทศไทย

iPhone 5 :คีย์บอร์ดเลเซอร์และหน้าจอแบบโฮโลแกรมเหนือจริง

:: iOS: iPhone 5 จะมาพร้อมคีย์บอร์ดเลเซอร์นอกตัวเครื่องและหน้าจอแบบโฮโลแกรมเหนือจริง? ::

ต่อเนื่องจากความยิ่งใหญ่อลังการของคลิปวิดีโอแกะกล่อง iPhone 5 ที่ทำให้สาวก Apple ได้ตื่นตะลึงกันไปทั้งบาง (ว่าพวกมันช่างกล้าจริงๆ) ล่าสุด Aatma Studio เจ้าของผลงานดังกล่าวได้ส่งภาคต่อคลิปiPhone 5 ออกมาอีกเป็นคำรบสอง โดยคราวนี้จับประเด็นไปที่คุณสมบัติใหม่ที่ Apple หลังยุค Steve Jobs บอกเลิกศาลาอาจจะนำมาใส่ให้กับ iPhone 5 ก็เป็นได้ (เหรอ?)

 

โดยในคลิป iPhone 5 ที่ว่านี้โชว์กันไปเลยจะๆว่าตัวเครื่องจะมาพร้อมกับคุณสมบัติในแบบที่สมาร์ตโฟนเจ้าไหนๆก็ไม่อาจทำได้เสมอเหมือนไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ดแบบเลเซอร์ที่จะยิงสัญญาณออกมาจากโปรเจกเตอร์ภายใน iPhone 5 เพื่อให้คุณสามารถใช้งานคีย์บอร์ดได้แบบเต็มไม้เต็มมือบนทุกสภาพพื้นผิวการใช้งานอีกต่างหาก ซึ่งอันนี้อาจจะเป็นไปได้ในอนาคตเหมือนกันเพราะ Apple เองได้จดสิทธิบัตรเรื่องโปรเจกเตอร์ในiPhone รอท่าเอาไว้อยู่แล้วนั่นเอง

 

ส่วนไอ้ที่โอเวอร์ไปเลยก็คือหน้าจอของ iPhone 5 ที่จะสามารถแสดงผลภาพในแบบโฮโลแกรมลอยๆออกมากระแทกหน้าคนดูได้เหมือนอย่างในหนังไซไฟฮอลลีวู้ดทั้งหลายนั่นแหละครับ แต่ถ้าหากทำได้ก็คงจะสะดวกไม่น้อยเพราะคุณจะสามารถรับชมไฟล์หนังหรือภาพแบบเต็มๆตาไม่ต้องพึ่งพาการเชื่อมต่อพอร์ตHDMI เข้ากับหน้าจอมอนิเตอร์หรือโทรทัศน์ความละเอียดสูงอีกต่อไป

ว่าแล้วก็อดใจรอคลิป iPhone 5 ตัวต่อไปจาก Aatma Studio กันไม่ไหวแล้วว่าพวกพ่อเจ้าประคุณทั้งหลายจะสรรหาฟีเจอร์วิลิศมาหราอะไรมาใส่ให้กับ iPhone 5 อีก เผื่อผลงานพวกท่านจะชนะใจกรรมการJonathan Ive ได้ร่วมงานกับ Apple ในการพัฒนา iPhone 6, 7, 8 ก็เป็นได้เหมือนกันนะ :P

บทความโดย: ekk TechXcite

ที่มา: 9to5mac

แอปเปิลประกาศ สตีฟ จ็อบส์ ลงจากตำแหน่งซีอีโอ

(แฟ้มภาพ) ซ้ายมือ สตีฟ จ็อบส์ แนะนำ แมคบุ๊ก เมื่อปี 2003 ร่างกายยังสมบูรณ์แข็งแรง ขวามือ เขาปรากฎตัวในงานแนะนำไอแพด เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมีสภาพร่างกายซูบผอมลงอย่างเห็นได้ชัด        เอเอฟพี - แอปเปิลแถลง สตีฟ จ็อบส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ยื่นจดหมายลาออกจากการเป็นประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของบริษัทแล้วในวันพุธ (24) ซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์กันไว้นานแล้ว หลังเขาเริ่มต่อสู้กับมะเร็งร้ายอย่างหนัก                             แอปเปิลประกาศผ่านหนังสือที่เป็นลายลักษณ์อักษรว่า ทิม คุ้ก หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ และการขาย จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน ขณะที่จ็อบส์จะยังดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริหารของบริษัทต่อไป               “ทัศนวิสัยที่พิเศษ และความเป็นผู้นำของสตีฟช่วยเหลือแอปเปิล และนำบริษัทให้ขึ้นมาเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีที่มีความคิดสร้างสรรค์ และมีมูลค่ามากที่สุดในโลก” อาร์ต เลวินสัน สมาชิกคณะกรรมการบริหารระบุในถ้อยแถลง               “บอร์ดมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า ทิมเป็นบุคคลที่ใช่ ที่จะเป็นซีอีโอคนต่อไปของพวกเรา” เลวินสันเสริม               อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการให้เหตุผลถึงการลาออกของจ็อบส์ แต่ปัญหาสุขภาพของเขา รวมถึงการลางานเพื่อเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายตับเป็นเวลานานในปี 2009 และสภาพซูบผอมลงเรื่อยๆ เมื่อปรากฏตัวตามงานต่างๆ ยิ่งกระพือความคาดเดาว่าเขาคงจะเลิกบริหารงานในบริษัทที่เขาก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1976 แห่งนี้               จ็อบส์ถูกมองว่าเป็นหัวใจและจิตวิญญาณของแอปเปิล โดยนักวิเคราะห์และนักลงทุนต่างแสดงความกังวลหลายต่อหลายครั้งว่าบริษัทซึ่งตั้งอยู่ในเมืองคูเปอร์ติโน มลรัฐแคลิฟอร์เนียแห่งนี้จะรับมืออย่างไรกับการลาออกไปของเขา               ด้าน คุกเคยเป็นผู้บริหารบริษัทเมื่อคราวที่จ็อบส์ลาพักรักษาตัว และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เขาก็เป็นผู้ดำเนินงานที่จำเป็นวันต่อวัน จนบริษัทเอาชนะคู่แข่งอื่นๆ ทั้งในด้านรายได้ และผลกำไร               แอปเปิลยังระบุว่า ก่อนหน้านี้คุกเคยรับผิดชอบด้านการขาย และการปฏิบัติการทั่วโลก รวมถึงการจัดการห่วงโซ่อุปทาน กิจกรรม บริการ และการส่งเสริมการขายในทุกตลาด และทุกประเทศ โดยมีประสบการณ์ทำงานกับแอปเปิลมาถึง 13 ปี

ทิม คุก ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งซีอีโอของแอปเปิ้ลแทนจ็อบส์

จดแล้ว!! สิทธิบัตร"ถุงลมนิรภัยเพื่อโทรศัพท์มือถือ

เจฟ เบโซส์ (Jeff Bezos) ซีอีโออเมซอนดอทคอมรุกจดสิทธิบัตรนวัตกรรมใหม่"ถุงลมนิรภัยสำหรับโทรศัพท์มือถือ" สุดเจ๋งดึงระบบ accelerometer และ gyroscope ในเครื่องมาตรวจจับว่าเครื่องกำลังร่วงหล่นหรือไม่ หากใช่ระบบจะปล่อย"ถุงลมจิ๋ว"ที่สามารถลดแรงกระแทกระหว่างเครื่องและพื้นได้
      
       สิทธิบัตรสุดแจ๋วเพื่อคนหวงโทรศัพท์นี้มีชื่อว่า PROTECTING DEVICES FROM IMPACT DAMAGE เนื้อหาที่ระบุในแบบยื่นจดลิขสิทธิ์ลงชื่อ Jeff Bezos และ Greg Heart รองประธานอเมซอนเป็นผู้คิดค้น ถูกยื่นเสนอต่อคณะกรรมการสิทธิบัตรอเมริกันตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่เพิ่งถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
      
       ตามเนื้อความในแบบยื่นจดสิทธิบัตร หลักการทำงานของระบบถุงลมนิรภัยสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพานี้ไม่เพียงการใช้ระบบตรวจจับองศาการเอียงเครื่องหรือ accelerometer ในการตรวจจับว่าเครื่องกำลังร่วงหล่นอยู่หรือไม่ แต่ยังมีการเสนอให้ใช้เลเซอร์หรือเรดาร์ในการประเมินระยะห่างระหว่างเครื่องและพื้นเพื่อประเมินเวลาในการปล่อยถุงลมนิรภัยที่พอดี
      
       นอกจากนี้ ผู้บริหารอเมซอนทั้งสองยังเสนอแนวคิดในการใช้ระบบการตรวจจับการเคลื่อนไหวของเครื่องแบบ 3 มิติหรือที่เรียกว่า gyroscope เพื่อใช้กับระบบอัดอากาศลักษณะเดียวกับเครื่องบินเจ็ทยุคเก่า ซึ่งจะทำให้ระบบสามารถเปลี่ยนองศาเครื่องที่กำลังร่วงหล่นบนอากาศ เพื่อให้แน่ใจได้ว่า อุปกรณ์ด้านที่หล่นกระทบพื้นคือด้านที่มีถุงลมนิรภัยติดอยู่
      
       นี่ถือเป็นแนวคิดที่มีประโยชน์มากในการประยุกต์ใช้เซ็นเซอร์อย่าง accelerometer ที่โทรศัพท์มือถือ กล้องดิจิตอล และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์พกพาอื่นๆนำมาใช้เพื่อการหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ รวมถึงระบบการตรวจจับองศาการเคลื่อนไหวของเครื่องแบบ 3 มิติ gyroscope ที่ทำให้นักเล่นเกมสามารถรับประสบการณ์ใหม่บนอุปกรณ์พกพามากขึ้น แน่นอนว่าหากในอนาคตมีใครสนใจเอาแนวคิดป้องกันเครื่องด้วยถุลมนิรภัยดังกล่าวไปใช้กับอุปกรณ์ไอที ผู้คิดค้นทั้ง 2 คนก็มีโอกาสได้รับอานิสงส์จากค่าสิทธิบัตรไปด้วย
      
       เชื่อว่าผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต เครื่องอ่านอีบุ๊ก กล้องดิจิตอล เครื่องเกมพกพา รวมถึงอุปกรณ์พกพาทุกชนิดที่มีโอกาสเสียหายเพราะการหล่นลงพื้นจำนวนไม่น้อยที่จะนับวันรอให้มีสินค้าติดถุงนิรภัยลักษณะนี้ อย่างไรก็ตาม สิทธิบัตรดังกล่าวยังไม่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการในขณะนี้ ซึ่งแม้การอนุมัติจะเกิดขึ้นในเร็ววัน แต่ก็ยังต้องใช้เวลาอีกไม่น้อยในการพัฒนาต่อยอดจนกระทั่งสามารถประยุกต์ใช้ได้จริง

ใหม่!!! Wi-Fi ไร้สายไกลถึง 100 กม.!

          คุณผู้อ่านอาจจะคุ้นเคยกับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 802.11 a/b/g/n ซึ่งเป็นที่นิยมใช้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในปัจจุบัน โดยต้องยอมรับว่า 802.11 ใช้งานได้ดี และไม่ต้องคอยกังวลว่าจะมีมาตรฐานใหม่ออกมาแล้วทำให้เราท์เตอร์ของคุณใช้ไม่ได้ แต่แล้ว IEEE ก็ได้ประกาศมาตรฐานใหม่สำหับการเชื่อมต่อไร้สายที่เรียกว่า 802.22 ที่ออกแบบให้สามารถใช้ประโยชน์จากสเป็กตรัมสัญญาณของการบรอดแคสต์ใหม่ที่อยู่ระหว่าง 54MHz ไปจนถึง 698MHz (ความถี่ที่ใช้กับแพร่สัญญาณภาพแอนาล็อกทีวีในสหรัฐอยู่ที่ 700MHz)

          ด้วยเหตุที่ใช้ความถี่ในย่านใกล้เคียงกับทีวีแอนาล็อก ทำให้มาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายแบบใหม่สามารถส่งคลื่นออกไปได้ไกลกว่าเดิมหลายเท่าตัว โดย 802.22 Wi-Fi จะสามารถเชื่อมต่อด้วยความเร็วของข้อมูลสูงถึง 22 Mbps ในระยะ 62 ไมล์ (ประมาณ 100 กิโลเมตร) ด้วยเบสสเตชันตัวเดียว ซึ่งทำให้ง่ายต่อการให้บริการบรอดแบนด์ไร้สายในเมืองเล็กๆ โดยล่าสุดมาตรฐานดังกล่าวได้ผ่านการรับรองแล้ว นั่นหมายความว่า บริษัทต่างๆ ก็สามารถเริ่มผลิตเราท์เตอร์ที่ใช้เทคโนโลยี 802.22 นี้ได้แล้ว

Cat VS Internet