วันอังคารที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2554

รวมวิธีแก้ต่างๆ ที่เป็นอาการหลังติดไวรัสครับ



รวมวิธีแก้ต่างๆ ที่เป็นอาการหลังติดไวรัสครับ


วิธีดังต่อไปนี้จะใช้ไม่ได้ผล หากท่านยังไม่ได้หยุดหรือลบไวรัสนะครับ


แทบจะทุกวิธีนั้นต้องเข้า regedit ไปแก้ครับ โปรดแก้ด้วยความระวัดระวังครับ เพราะหากทำผิดท่านอาจจะเข้า windows ไม่ได้
วิธีเข้า regedit นั้น ให้คลิกตรงปุ่ม Start ตรงปุ่มล่างซ้าย แล้วเลื่อนขึ้นไปคลิกปุ่ม Run ในช่องข้อความพิมพ์ว่า regedit แล้ว Enter 



วิธีแก้ต่างๆ 

1.เข้า Run ไม่ได้ 
1.1เข้าไม่ได้เพราะไม่มีเมนู Run คือพูดง่ายๆ คลิก Start ตรงปุ่มล่างซ้ายแล้วไม่มีเมนู Run ให้คลิก 
ให้เข้า regedit โดยการเข้าไปที่ C:WINDOWS แล้วดับเบิ้ลคลิกไฟล์ regedit.exe แล้วไปที่คีย์
HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionPoliciesExplorer
มองขวามือลบคีย์ NoRun
1.2 อาจจะโดนร้ายแรงกว่านั้น อาการคือ คลิก Start ตรงปุ่มล่างซ้ายแล้วไม่มีเมนูอะไรเลย หน้าจอก็ไม่มีไอคอนอะไร คลิกขวาก็ไม่ได้
แต่ยังกด Ctrl+Alt+Delete ได้ ให้กด Ctrl+Alt+Delete แล้วเลือกแถบ New task แล้ว browse ไปเลือกเปิดไฟล์ C:WINDOWS egedit.exe
เมื่อเข้า regedit ได้แล้ว ให้เข้าไปที่คีย์ 
HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionPoliciesExplorer
มองขวามือ ลบคีย์ออกทุกคีย์ยกเว้น คีย์ชื่อNoDriveTypeAutoRun ไม่ต้องลบครับ แล้วรีตาร์ทเครื่องก็หายแล้วครับ


2. เข้า regedit ไม่ได้ เมื่อเข้าแล้วขึ้น ดังรูป Registry editing has been disabled by your administrator


ให้โหลดโปรแกรมมาแก้ครับ ชื่อ UnHookExec.inf โหลดมาแล้วคลิกขวาเลือกคำสั่ง install นะครับ 
2.1เข้า regedit แล้วเงียบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย เป็นไปได้ว่าไฟล์ regedit อาจจะโดนลบครับ ให้เข้าไปที่ My computer แล้วเข้าไปที่
C:WINDOWS หาเปิดไฟล์ regedit.exe ครับ หากเปิดแล้วเงียบอีก ก็ให้เปลี่ยนชื่อ ไฟล์ regedit.exe นั้นเป็นชื่ออื่นครับ เช่น regedit2.exe 
แล้วลองเข้าใหม่ครับ เมื่อเข้าได้แล้วก็ เข้าไปที่คีย์
HKEY_LOCAL_MACHINESOFTWAREMicrosoftWindows NTCurrentVersionImage File Execution Options
ลบโฟลเดอร์ regedit.exe
HKEY_LOCAL_MACHINESOFTWAREMicrosoftWindows NTCurrentVersionImage File Execution Options 
ลบโฟลเดอร์ regedt32.exe



3.คลิกขวาไม่ได้ ให้เรา เข้า regeditแล้วไปที่คีย์
HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionPoliciesExplorer 
มองขวามือ หาบรรทัดที่เขียนว่า NoViewContextMenu เจอแล้วลบทิ้งเลยครับ แล้วเข้าไปที่
HKEY_LOCAL_MACHINESoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionPoliciesExplorer
มองขวามือ หาบรรทัดที่เขียนว่า NoViewContextMenu เจอแล้วลบทิ้งเช่นกันครับ


4.กด Ctrl+Alt+Delete แล้ว Task manager ไม่ขึ้นมาแต่ขึ้นว่า Task Manager has been disabled by your administrator 

ให้เข้า regeditแล้วไปที่คีย์
HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionPoliciesSystem
มองขวามือลบบรรทัดที่เขียนว่า DisableTaskMgr แล้วเข้าไปที่คีย์
HKEY_LOCAL_MACHINESoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionPoliciesSystem 
มองขวามือลบบรรทัดที่เขียนว่า DisableTaskMgr ออกเหมือนกันครับ 


5.เข้า Run พิมพ์ cmd แล้วเอนเทอร์ เพื่อจะเข้า command prompt แล้วเครื่องก็รีสตาร์ท หรือเงียบ
ให้เข้า regeditแล้วไปที่คีย์
HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionPoliciesSystem
มองขวามือลบบรรทัดที่เขียนว่า DisableCMD แล้วเข้าไปที่คีย์ 
HKEY_LOCAL_MACHINESoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionPoliciesSystem 
มองขวามือลบบรรทัดที่เขียนว่า DisableCMD เหมือนกันครับ 


6.เมนู โฟลเดอร์ ออฟชั่นหาย ให้เข้า regeditแล้วไปที่คีย์
HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionPoliciesExplorer
มองขวามือลบบรรทัดที่เขียนว่า NoFolderOptions ออกครับ


7.เซตให้แสดงไฟล์ของระบบไม่ได้ เซตแล้วก็เด้งกลับมาซ่อนไว้เหมือนเดิมเหมือนเดิม 
ให้เข้า regeditแล้วไปที่คีย์ 
HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionExplorerAdvanced
มองหาคีย์ชื่อ ShowSuperHidden ให้ดับเบิ้ลคลิก แล้วใส่ค่าเป็น 1 ครับ



8. ไม่สามารถเปลี่ยนหรือลบภาพพื้นหลังหน้าจอไม่ได้เพราะคลิกขวา properties ที่หน้าจอแล้วไม่มีเมนูที่จะเข้า ดังรูป 



ให้เข้า regedit แล้วไปที่คีย์ 
HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftWindowsCurrentVersionPoliciessystem
มองขวามือแล้วลบบรรทัดที่เขียนว่า NoDispBackgroundPage กับ NoDispScrSavPage ออกครับ

Create Date : 30 มีนาคม 2554  

Last Update : 30 มีนาคม 2554 21:01:15 น.
 


วิธีทำให้คอมพิวเตอร์ให้เหมือนใหม่แกะกล่อง

วิธี Clean คอมพิวเตอร์ให้เหมือนใหม่แกะกล่อง (คอมคุณจะเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย)
1.สร้างจุดคืนค่า ก่อน หากเกิดปัญหา จะได้มีทางแก้ไข
คลิก Start >>ALL Programs>>Accessories>>System Tools>>System Restore
คลิกเลือกที่ Create a restore point >>Next>> พิมพ์ อะไรก็ได้ >> Create>>Close

2.ลบ File Temp
คลิก Start>>Run >> พิมพ์ %tmp% >> ok
เลือกลบ File ที่ลบได้ ที่ลบไม่ได้ ข้ามไป

3.ลบ บันทึกการใช้โปรแกรม
เข้าไปที่ C:WINDOWSPrefetch
ลบ File ใน Folder Prefetch แต่ห้ามลบ Folder นี้เด็ดขาด

4. Disk Cleanup
คลิก Start >>ALL Programs>>Accessories>>System Tools>> Disk Cleanup
เลือก Drive ที่จะทำ >> ok
ใส่เครื่องหมายถูกให้ครบทุกช่อง >> More Options
ที่ System Restore เลือก Clean up >> YES >> OK >> YES

5.ลบโปรแกรมที่รันออโตที่เราไม่ต้องการออก
คลิก Start>>Run >> พิมพ์ msconfig >> OK
ไปที่ Startup เอาเครื่องหมายถูกออกให้หมด ยกเว้น ctfmon และโปรแกรม Antivirus
OK [Restart Computer]
เมื่อ start Computer เรียบร้อย จะมีหน้าต่างขึ้นถามให้ใส่เครื่องหมายถูกลงในช่องแล้ วตอบ OK

6.ปิดการแจ้งเตือน ต่างๆที่ไม่จำเป็น
๑.คลิกขาวที่ My Computer เลือก Properties
ที่ Advanced >> Error Reporting คลิกเลือกที่ Disable error reporting>> OK
ที Remote เอาเครื่องหมายถูกออกในช่อง Remote Assistance >> OK

************************************************** *****

๒.คลิก Start>> Control Panel >> Security Center
ที่หน้าต่างเล็กด้านซ้าย คลิก Change the way Security Center alerts me
เอาเครื่องหมายถูกออก ให้หมด >> OK
7. Disk Defragmenter การจัดเรียงข้อมูล
ขั้นตอน นี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน และควรปิดโปรแกรมอื่นๆให้หมด
คลิก Start >>ALL Programs>>Accessories>>System Tools>> Disk Defragmenter
คลิกเลือก Drive ที่จะทำ >> Defragment แล้วไปนอน รอเลย หลับไปเลย พอเสร็จก็ OK
Restart Computer เสร็จพิธีครับ

**********************************************

เปลี่ยนซื่อ Administrator ให้เป็นชื่อที่เราต้องการให้แสดงที่สตาร์เมนู
คลิก Start>>Run >> พิมพ์ control userpasswords2 >> OK
ที่ Advanced >>Advanced >>
คลิก Users ดับเบิลคลิกชื่อผู้ใช้ที่ต้องการเปลี่ยน [ Administrator ]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น