วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Android ดีกว่า iPhone ยังไง??


android-vs-iphone.jpg


      หลังจากที่มีคนถามผมมาเยอะว่า Android ดีกว่า iPhone ยังไง วันนี้ผมเลยมาบอกให้ฟังว่าจากการใช้งานของผมที่ผ่านมา Android มันดีกว่ายังไงบ้างครับ

*** โปรดสังเกตหัวข้อบทความนะครับ ว่าเป็น "Android ดีกว่า iPhone ยังไง" ไม่ใช่เปรียบเทียบ Android กับ iPhone นะครับ (พูดง่ายๆก็บทความเข้าข้าง Android ล่ะครับ 555)

Keyboard
Android
สามารถเปลี่ยน Keyboard ได้อย่างอิสระคีย์บอร์ดมีหลายฟังชั่นมากๆ ทำให้การพิมนั้นปรับเปลี่ยนไปตามสไตล์ของเราได้ ยกตัวอย่างเช่น
TSwipe
ลากได้ เปลี่ยนสกินได้ และปรับขนาดคีย์บอร์ดได้ < โคตรเทพผมใช้กับแอนดรอยด์ทุกเครื่องที่ผมมี
ดู Feature เต็มๆได้ที่นี่ http://www.tswipe.com/index.php

Man Man Keyboard
คีย์บอร์ดที่จะปรับเปลี่ยนขนาดของปุ่มโดยการเดาคำ ทำให้เราสามารถพิมพ์ได้แม่นขึ้นครับ

iPhone
เป็นคีย์บอร์ด 3 แถวที่ดันแยกสระไว้ข้างปุ่ม Spacebar บอกตรงๆว่ามันพิมพ์โคตรยากและขัดใจมากๆ ถึงแม้ว่าจะสามารถเปลี่ยนเป็น 4 แถวได้ แต่ก็ต้องทำการ Jailbreak เครื่องให้หมดประกัน แล้วยัด Keyboard เข้าไป ส่วนเรื่องใช้นิ้วลากเพื่อพิมพ์ หรือฟังชั่นคีย์บอร์ดเทพๆ ลืมไปได้เลยครับ ไม่มีแน่นอน

ลงแอพง่ายมาก
Android
สามารถติดตั้งแอพได้ 3 ทาง โดยไม่จำเป็นต้องดัดแปลงตัวเครื่อง (ไม่จำเป็นต้อง Root ไม่จำเป็นต้อง Jailbreak เหมือน iPhone
1. ลงผ่าน Market ในเครื่องของเรา ถ้าหากเครื่องเรามี Market อยู่ กดเข้าไปแล้ว Install ก็เรียบร้อยครับ
2. ลงผ่านหน้าเว็บ https://ธmarket.android.com
เพียงแค่เรา Sign in Google Account เดียวกับในโทรศัพท์แล้วให้โทรศัพท์ของเราต่ออินเตอร์เน็ตอยู่ ก็สามารถเลือกแอพแล้วกด install ได้เลย
3.ลงแอพจากไฟล์ apk ซึ่งเป็นไฟล์ package ที่ได้มาหลังจากเราทำการ export แอพที่เราพัฒนามาลงใส่เครื่องได้เลย (อย่าเอาไปลงแอพเถื่อนกันนะ)

iPhone
ลงแอพได้ 3 ทางเช่นกัน แต่บางทางต้อง Jailbreak ก่อนถึงจะลงได้
1.ลงจาก Appstore ในเครื่อง ซึ่งอันนี้ก็คล้ายกับ Market ของ Android ครับ กดๆจากเครื่องเราก็ลงได้เลย
2.ลงจาก iTunes แต่วิธีนี้เราจำเป็นจะต้องใช้สายเชื่อมต่อกับ iTunes จากนั้นทำการเลือกแอพจาก Appstore แล้วทำการ Sync เข้าเครื่องครับ (สำหรับการเชื่อมต่อกับคอมจริงๆสามารถใช้ iFunbox ลงได้เช่นกัน)
3.ลงจาก installous ซึ่งเป็นการลงแอพจากไฟล์ ipa นั่นเอง แต่การจะลงไฟล์แบบนี้ได้จำเป็นทำการ Jailbreak เครื่องก่อนครับ
*** installous ไม่แนะนำจริงๆ เพราะแหล่งรวมของเถื่อนครับ ถึงแม้ว่า iOS จะเป็นคู่แข่ง Android แต่นักพัฒนาคือมิตรของเรา ถ้าเป็นไปได้ร่วมมือกันใช้ของแท้นะครับ

Homescreen และ Lockscreen
Android
สามารถเปลี่ยน Theme ได้หลากหลาย เปลี่ยนหน้าตาเครื่องจนจำไม่ได้เลยก็ได้ เพราตัง Home หรือ Launcher มีให้เราเลือกกันเยอะมาก และไม่จำเป็นต้อง Root ให้หมดประกันอีกด้วย

ตัวอย่าง Launcher
Go Launcher EX

Slidescreen

Metro UI


นอกจากนั้นยังสามารถเปลี่ยนหน้า Lock Screen ได้อีกนะครับ

Go Locker

แล้วยังสามารถใช้งาน Widget ที่ทำให้เราดูข้อมูลหรือติดตามข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องไปเข้าแอพนั้นๆ

Facebook widget

Calendar

นอกจากนั้น Android ยังมี Live Wallpaper หรือ Wallpaper แบบขยับได้อีกด้วยนะครับ

iPhone
สามารถเปลี่ยน Home หรือ Theme ได้ก็จริง แต่ก็จำเป็นที่จะต้อง jailbreak ก่อน แล้วลง winterboard จาก cydia ถึงจะสามารถเปลี่ยน Theme ได้

สามารถเปลี่ยน Lock ได้ แต่ก็ต้อง Jailbreak และยังใช้ประโยชน์ได้ไม่มากเท่า Lock screen ของ Android อยู่ดี

ไม่สามารถใช้ Widget ได้

ไม่มี Wallpaper แบบแปลกๆให้ใช้

ลงเพลง ลงหนัง ดูหนัง ฟังเพลง และไฟล์งานต่างๆ
Android
ลงเพลง ลงหนัง
สามารถโยนไฟล์ลงเครื่องได้เลยโดยการเสียบสายแล้วเปิดโหมด USB Mass Storage Device แล้วลากไฟล์ไปวางเหมือนเฟลชไดร์ปกติได้เลย ทั้งไฟล์หนังและไฟล์เพลง

แต่ถ้าไม่อยากเชื่อมต่อกับคอมก็ใช้พวก Wi-Fi Explorer หรือ Samba File Sharing ในวางไฟล์ผ่าน Wireless ได้ครับ

ส่วนการเล่นสามารถได้ทุกไฟล์ถ้าเครื่องแรงพอ แต่อาจจะต้องลงแอพเพิ่ม อย่างเช่น Vplayer , MX Video Player

ไฟล์เอกสารนั้นตัวของ Android ปกติ ถ้ามาแบบเพียวจะเปิดเอกสารไม่ได้ อาจต้องลงแอพอย่าง Google Docs เพิ่มเข้าไป ซึ่งแอพนี้เป็นแอพฟรีครับ เปิดและแก้ไขไฟล์ได้หมด

iPhone
ถ้าหากจะลงเพลงหรือหนังจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับคอมแล้วใช้ iTunes ในการลงหนังและเพลง แต่ไม่สามารถลงไฟล์หนังได้ทุกไฟล์นะครับ ถ้าหากจะเล่นไฟล์นั้นๆกับแอพในเครื่องปกติ ไฟล์หนังจำเป็นต้องมีขนาดที่ Support กับหน้าจอและเป็น Format ที่ตัวเครื่องสามารถอ่านได้
*** ถ้าใช้ iTunes ลง อาจจะไม่ต้องต่อสายก็ได้ เพราะสามารถ Sync ผ่าน Wireless ได้เช่นเดียวกัน

เรื่องของการเล่นไฟล์หนังชนิดอื่นๆ iPhone หรือ iPad ก็สามารถทำได้ แต่ก็ต้องเพิ่งแอพตัวอื่นๆอย่างเช่น AV Player หรือ ACE Player ครับ ซึ่งการลงไฟล์หนังใส่แอพเหล่านี้จะสามารถลงผ่าน iTunes หรือยัดไฟล์ผ่าน Wi-Fi Transfer หรือ ftp ได้

สามารถเปิดไฟล์เอกสานอ่านได้โดยไม่จำเป็นต้องลงแอพเพิ่ม แต่แก้ไขเอกสารไม่ได้นะครับ ถ้าจะแก้ไขก็ต้องลงแอพเพิ่มอยู่ดี

การเปิดเว็บ
Android
ตัว Browser ของ Android นั้นรองรับทุกอย่างทั้ง Flash 10 และ HTML 5 ถ้าหากเครื่องแรงจริงๆก็พอจะเล่นเกมเฟสบุ้คได้เลยทีเดียว
สามารถดาวโหลดไฟล์จากเว็บ และอัพไฟล์จากมือถือขึ้นเว็บได้

iPhone
ตัว Browser รองรับ HTML5 แต่ไม่รับรอง Flash 10 บอกลาเกมเฟสบุ้คไปได้เลยครับ

ส่วนการดาวโหลดหรืออัพโหลดไฟล์นั้นไม่สามารถทำได้ แต่ถ้า Jailbreak แล้วลง Plug in เพิ่มจาก cydia ก็ทำได้ครับ (ทำได้แต่ไม่ดีนัก ปัญหาเยอะ)

ราคา
Android
มีตั้งแต่ราคา 2xxx - 2xxxx ซึ่งสามารถเลือกได้แล้วแต่ความต้องการของเรา เช่นถ้าหากไม่ได้เล่นเกมก็เลือกเครื่องถูกไป อยากเล่นเกมเปิดเว็บแรงก็เลือกเครื่องแพงๆ เพราะไม่ว่าถูกหรือแพงก็สามารถใช้งาน Android ได้เหมือนกัน

ในตัวของแอนดรอยด์นั้นถึงแม้ว่าเครื่องจะราคาเพียง 3-4 พัน เปิดเว็บไม่เร็วมาก เล่นเกมไม่ค่อยได้ แต่ใช้งาน Mail และเปิดเว็บได้แน่นอน ซึ่งผมคิดว่าสำหรับบางคนที่ไม่ได้เล่นเกมและไม่ต้องการเครื่องที่เร็วมากในงบที่จำกัด การเลือกซื้อสมาร์ทโฟนราคาถูกก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนกลุ่มนั้นครับ

iPhone
ราคาอยู่ที่ 15xxx- 26xxx ถึงแม้ว่าจะเลือก ความจุให้เหมาะกับความต้องการได้ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังราคาสูงมากอยู่ดี เพราะฉะนั้นกลุ่มคนที่ไม่ได้อยากใช้งานอะไรมากนักแค่เช็คเมลหรือเปิดเว็บ อาจจะใช้งานได้ไม่คุ้มค่ากับราคาของตัวเครื่องที่ซื้อมา

    ในบทความนี้ผู้เขียนไม่มีเจตนาในการโจมตี iOS นะครับ เพียงแต่อย่างเล่าประสบการณ์การใช้งานต่างๆ ระหว่าง iOS และ Android มากกว่า (ถึงแม้ว่าในบทความจะไม่เอ่ยถึงอะไรที่ iOS ดีกว่าแอนดรอยด์ก็เถอะ) เพราะฉะนั้นหากใครมีอะไรจะแนะนำผมให้เพิ่มเนื้อหาในบทความหรือขัดค้านในส่วนไหน มาช่วยกันแสดงความคิดเห็นกันได้ในกระทู้นี้นะครับ

ขอบคุณครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น